วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เยือนเมืองน้ำหอม เที่ยวฝรั่งเศส 4 เมืองดัง ปารีส-นีซ-กอลมาร์-กราสส์


เยือนเมืองน้ำหอม เที่ยวฝรั่งเศส 4 เมืองดัง ปารีส-นีซ-กอลมาร์-กราสส์
วันวันอังคารที 16 กันยายน 2014
เยือนเมืองแห่งน้ำหอม แฟชั่น ศิลปะและขนมหวานสุดฮิตมาการอง ตะลุยเที่ยว 4 เมืองดังกับไฮไลท์ข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในฝรั่งเศส ที่คุณไปเองได้
เสิร์ชเอ็นจิ้น Skyscanner ขอพาคุณไปบงชูว์ ลา ฟร็องซ์ เที่ยวฝรั่งเศส 4 เมืองยอดนิยม ตั้งแต่กรุงปารีสจนถึงนีซเมืองตากอากาศทางตอนใต้ พร้อมข้อมูลประเทศฝรั่งเศส อากาศฝรั่งเศส และไฮไลท์สถานที่ท่องเที่ยวในฝรั่งเศสเด่นๆ ให้คุณได้เลือกวางแผนการท่องเที่ยว ฝรั่งเศสด้วยตนเอง รับรองว่าไปฝรั่งเศสคราวนี้คุณไม่พลาดสถานที่เที่ยวฝรั่งเศสดีๆ อย่างแน่นอน
ฝรั่งเศส เดสติเนชั่นยอดนิยมตลอดกาลของนักท่องเที่ยวชาวไทย เมืองแห่งศิลปะและแฟชั่นชั้นนำ เมืองแห่งศิลปวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่เมืองหนึ่งของยุโรป เมืองแห่งขนมอบและขนมหวานแสนอร่อย เมืองแห่งไวน์ชั้นดี และอีกหลายสรรพคุณของดินแดนแห่งนี้ที่ดึงดูดใจนักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกตลอดมา
ไปเที่ยวช่วงไหนดี ช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการมาเยือน คือ ช่วงฤดูใบไม้ผลิ-ฤดูร้อน เพราะจะได้ชมสีสันธรรมชาติสวยงามและอากาศกำลังสบายไม่หนาวเหน็บ แต่ทั้งนี้ในช่วงฤดูหนาวก็เป็นช่วงเวลาแห่งเทศกาลงานดนตรีและศิลปะต่างๆ แถมยังได้มาสัมผัสอากาศเย็นๆ แถบยุโรป ได้จัดเต็มใส่โอเวอร์โค้ต รองเท้าบูทสูง เดินกอดกันท่ามกลางหิมะโปรยปราย โรแมนติกไปอีกแบบ

ปารีส (Paris)

Paris, France
เมืองหลวงของประเทศฝรั่งเศส มีความสำคัญทั้งทางด้านเศรษฐกิจ ประวัติศาสตร์ ศิลปะและวัฒนธรรมทั้งของประเทศฝรั่งเศสและทวีปยุโรป

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

หอไอเฟล (Eiffel Tower)

ถือเป็นสัญลักษณ์ของประเทศฝรั่งเศสและปารีสเลยก็ว่าได้ สร้างเสร็จในปี พ.ศ. 2432 โดยสถาปนิกชื่อดังของประเทศ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) เป็นจุดชมวิวเมืองชั้นเยี่ยม ในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกไปเยือนหอไอเฟลมากกว่า 60 ล้านคน

พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre Museum)

พิพิธภัณฑ์ที่มีความสำคัญและใหญ่โตในอันดับต้นๆ ของโลก เป็นสถานที่เก็บรักษาศิลปวัตถุและโบราณวัตถุเกือบ 4 แสนชิ้น และเป็นที่รู้จักกันดีว่ามีงานแสดงภาพวาดชื่อดังก้องโลก โมนาลิซ่า (Mona Lisa) และภาพเขียนล้ำค่าชื่อดังอีกมากมาย มากไปกว่านั้นก่อนที่จะกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์ในปัจจุบัน สถานที่แห่งนี้เคยเป็นป้อมปราการเก่าที่ภายหลังได้มาสร้างเป็นพระราชวัง สถานที่เก็บสะสมและจัดแสดงสมบัติของพระมหากษัตริย์ และครั้งหนึ่งก็เป็นสถานที่จัดงานอภิเษกสมรสของพระเจ้านโปเลียนมหาราชอีกด้วย

พระราชวังแวร์ซายส์ (Versaille Palace)

พระราชวังหลวงที่มีความสวยงามและยิ่งใหญ่ในระดับโลก และยังติดอันดับ 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ฝีมือมนุษย์สร้าง พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นด้วยหินอ่อนสีขาวทั้งหมด ใช้เวลาการสร้างยาวนานถึง 30 ปี เสร็จสิ้นในปี พ.ศ. 2231 ค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสูงถึง 5 ร้อยล้านฟรังก์ ที่เก็บมาจากภาษีอากรของประชาชนจนทำให้เกิดความไม่พอใจและต่อต้านราชวงศ์ขึ้น และเป็นจุดจบของพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางมารี อ็องตัวแน็ต (Marie Antoinette) ปัจจุบันพระราชวังยังมีความสมบูรณ์สวยงามและเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เข้าชม

ถนนฌ็องเซลิเซ่และประตูชัยฝรั่งเศส (Champs Elysees and Arc de Triomphe)

สัญลักษณ์อีกอย่างของปารีสและฝรั่งเศส ประตูชัยของประเทศที่ตั้งอยู่บนถนนที่ขึ้นชื่อว่าสวยงามและโด่งดังที่สุดของประเทศ สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกียรติและเป็นที่ระลึกถึงทหารหาญในอดีต อีกทั้งยังเป็นสุสานของทหารนิรนามที่ได้พลีชีพในการรบกับเยอรมันในยุคสมัยของพระเจ้านโปเลียน

กอลมาร์ (Colmar) ใกล้กับเมืองมัลเฮาส์ (Mulhouse)

Colmar, France
เมืองเล็กที่มีคูคลองสายน้ำพาดผ่านจนขึ้นชื่อว่าเป็น “ลิตเติ้ลเวนิซ” อีกทั้งยังเป็นเมืองที่ติดอันดับ 1 ใน 10 เมืองโรแมนติกที่สุดในโลกอีกด้วย นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งไร่ไวน์ชั้นดี มีความสวยงามด้วยธรรมชาติหุบเขาและไร่องุ่นอันกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา มีบรรยากาศเมืองเก่ายุโรปที่ยังคงอนุรักษ์อาคารบ้านเรือนสไตล์ดั้งเดิมไว้ให้คนรุ่นปัจจุบันได้ชื่นชม

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

โบสถ์เซนต์มาร์ติน (St Martin's Church)

โบสถ์คาทอลิกเก่าแก่ขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นจากหินสีชมพูทั้งหลัง สร้างขึ้นในราวปี ค.ศ. 1234-1365 ถือเป็นโบสถ์ที่ใหญ่ที่สุดของเมืองกอลมาร์ มีสถาปัตยกรรมโกธิคที่สวยงามโอ่อ่า

พิพิธภัณฑ์ศิลปะเอิงเตแลงดอง (Unterlinden Museum)

สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 13 ถือเป็นพิพิธภัณฑ์ยอดนิยมแห่งหนึ่งของประเทศฝรั่งเศส ภายในจัดแสดงงานศิลปกรรมภาพวาดของศิลปินชื่อดังมากมายในอดีต รวมไปทั้งชุดเกราะสมัยยุคอัศวิน เครื่องเงินโบราณล้ำค่า และงานด้านดนตรีพื้นเมืองที่น่าสนใจมากมาย อีกทั้งยังเป็นแหล่งข้อมูลการท่องเที่ยวชั้นดีประจำเมืองอีกด้วย

การ์ซง ดู แฟง (Gazon du Faing)

แหล่งชมธรรมชาติป่าเขาอันสวยงามเลื่องลืออยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองกอลมาร์ราว 40 นาที เป็นเขตหุบเขาสูงที่มีความงดงาม มีทะเลสาบกลางหุบเขาขนาดใหญ่ และธารน้ำตกสูง ”รูด์แลง” (Rudlin Falls) ที่ตกลงมาจากหน้าผา เป็นแหล่งปีนเขายอดนิยมแห่งหนึ่งที่สามารถมาเยือนได้ตลอดปี

อาคารศุลกากรเก่าประจำเมือง (Old Custom House –Kofhus)

ถือเป็นแหล่งประวัติศาสตร์สำคัญของเมืองที่มีการก่อสร้างอันยาวนานตั้งแต่ปี ค.ศ. 1433-1480 เป็นสถานที่ราชการของเมืองนี้มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 อาคารแห่งนี้ได้รับการบูรณะต่อเติมหลายครั้ง และถูกใช้เป็นทั้งสถานที่ราชการ โรงเรียน ธนาคารและในปัจจุบัน ได้รักษาไว้ให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์

พิพิธภัณฑ์รถไฟจำลองและของเล่นโบราณ (Musee du Jouet et du Petit Train)

พิพิธภัณฑ์ในฝันของเด็กๆ และผู้ที่หลงใหลในของเล่นโบราณ จัดแสดงตุ๊กตา รถไฟไอน้ำ รถยนต์ เครื่องบิน และเรือของเล่นในอดีต

พิพิธภัณฑ์ บาร์โทลดี (Musee Bartholdi)

บ้านของศิลปินดังในอดีต ออกุสต์ บาร์โทลดี (Auguste Bartholdi) ผู้สร้างสรรค์รูปปั้นเทพีสันติภาพของอเมริกา (The Statue of Liberty) และสิงโตหินแห่งเบลฟอร์ด (Lion of Belfort) พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ใจกลางเขตเมืองเก่าของกอลมาร์ จัดแสดงคอลเลคชั่นงานศิลปะของศิลปินเจ้าของบ้านและของสะสมน่าสนใจต่างๆ รวมไปถึงโมเดลเทพีสันติภาพและสิงโตแห่งเบลฟอร์ด และห้องแสดงศิลปะชาวยิวโบราณอีกด้วย

นีซ (Nice)

Nice, France
เมืองตากอากาศริมชายฝั่งแฟรนช์ริเวลล่า (French Riviera) ติดกับประเทศอิตาลี มีบรรยากาศผสมแบบเมดิเตอร์เรเนียนอันเป็นที่หลงใหลของนักท่องเที่ยวทั่วโลก นอกจากจะมีชายหาดสวยงามอยู่ทั่วไปแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองแห่งประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรมอันยิ่งใหญ่อีกด้วย นีซเต็มไปด้วยอาคารสถาปัตยกรรมโบราณอันสวยงาม พิพิธภัณฑ์ แกลอรี่ ร้านค้า ที่ยังคงสภาพเมืองในอดีตไว้ ไม่นับรวมซากปรักหักพังของสิ่งก่อสร้างที่สำคัญและสวยงามอีกหลายแห่ง

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

คาสเซิล ฮิลล์ (Castle Hill)

สวนสาธารณะบนเขายอดนิยม จุดชมวิวหลักของเมือง

จัตุรัสมาเซน่า (Place Massena)

จัตุรัสยอดนิยม แลนด์มาร์คสำคัญของเมืองนี้ มีถนนสายช้อปปิ้ง สายแกลอรี่หลายเส้นที่แยกออกจากจัตุรัสแห่งนี้

โมนูม็อง เด มอรต์ (Monument des Morts)

อนุสรณ์ของเหล่าทหารที่สละชีพในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2

พิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัย (Modern and Contemporary Art Museum - MAMAC)

สถานที่จัดแสดงประติมากรรมก้อนหินสี่เหลี่ยมขนาดมหึมาชื่อดัง ลาเต็ตโอคาร์ (La Tete au Carre-Thinking inside the box)

โบสถ์เซนต์นิโคลัส (Cathedrale Orthodoxe Russe Saint-Nicolas de Nice)

โบสถ์รัสเซียโบราณที่อยู่คู่เมืองนี้มาช้านาน

อนุสาวรีย์ประจำเมือง (Le Monument du Centenaire)

อนุสาวรีย์ที่สร้างเมื่อครั้งฉลองครบรอบ 100 ปีของเมืองนี้ในปี ค.ศ. 1893

ย่านเมืองเก่านีซ (Le Vieux Niece)

แหล่งบ้านเมืองแบบเก่า มีสถานที่ท่องเที่ยวทางศิลปวัฒนธรรมและพิพิธภัณฑ์ศิลปะมากมาย และยังเป็นแหล่งอาหารทะเลสดอร่อยยอดนิยมของเมืองอีกด้วย

ตลาดกูร์ ซาลียา (Cours Saleya)

ตลาดดอกไม้สดอันขึ้นชื่อ ชนิดที่ว่ามาเมืองนีซแล้วห้ามพลาดมาเยือนตลาดแห่งนี้ นอกจากจะมีดอกไม้ให้เลือกชมเลือกซื้อมากมาย แถบนี้ยังมีตลาดผลไม้สด เป็นย่านร้านอาหาร ร้านกาแฟ ตลาดของเก่าขึ้นชื่ออีกด้วย

ซิมิเย่ (Cimiez)

เป็นเขตที่พักอาศัยของเศรษฐีในเมืองนี้ อีกทั้งยังมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจหลายแห่ง เช่น ซากปรักหักพังของอ่างอาบน้ำโรมันโบราณ (Archaeological museum-Roman baths) สวนกุหลาบ (Monastry Garden) โบสถ์โบราณและพิพิธภัณฑ์ฟรานซิสกัน (Franciscan Church and Museum)

ถนนเดส ซ็องเกรส์ (Promenade des Anglais)

ถนนเลียบชายหาดชื่อดังของเมืองที่ทอดตัวยาวสุดลูกหูลูกตา มีส่วนของบ้านเรือนริมเขาที่สร้างตั้งแต่ช่วงสมัยศตวรรษที่ 18 เป็นจุดพักผ่อนหย่อนใจยอดนิยม ไม่ว่าจะอาบแดดริมหาด เดินเล่นกินลม หรือจิบไวน์ ชิมอาหารทะเล ณ ร้านอาหารริมหาดมากมาย

กราสส์ (Grasse) ใกล้กับเมืองนีซ (Nice)

Grasse, France
เมืองแห่งการผลิตน้ำหอมของประเทศ หากนึกไม่ออกว่าเมืองนี้อยู่ตรงไหน ขอให้นึกถึงทุ่งดอกลาเวนเดอร์สวยงามกว้างใหญ่แห่งแคว้นโพรวองซ์ (Provence) ซึ่งเมืองกราสส์ก็เป็นเมืองๆ หนึ่งของแคว้นอันสวยงามนี้นั่นเอง ด้วยเหตุที่ว่าเมืองนี้เป็นแหล่งผลิตน้ำหอมชั้นดี ฉะนั้นจึงไม่น่าแปลกใจที่จะมีร้านขายน้ำหอมมากมายในเมือง และที่สำคัญการตกแต่งร้านของเมืองนี้เขามีเอกลักษณ์ความสวยงามโดดเด่นเป็นของตนเองแตกต่างจากร้านค้าในห้างสรรพสินค้าของเมืองหลวงอื่นๆ

สถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจ

โนเทรอดาม เดอ ปุย (Notre-Dame de Puy)

มหาวิหารเก่าแห่งลัทธิคาลอลิกประจำเมือง ตั้งอยู่บนหุบเขา มีขนาดใหญ่โตโอ่อ่า และมีงานสถาปัตยกรรมแบบยุโรปโบราณที่สวยงาม รวมไปถึงภาพเขียนอันวิจิตรทางด้านศาสนา เดอะวอชชิ่ง ออฟ เดอะ ฟีท (The Washing of the Feet) ที่วาดโดยศิลปินเอก ฌ็อง โอโนเร่ ฟราโกนาร์ (Jean-Honoré Fragonard)

โรงผลิตน้ำหอมฟราโกนาร์ (Fragonard-Glasse Perfume Factory)

โรงงานผลิตน้ำหอมอันเก่าแก่และมีชื่อเสียงประวัติความเป็นมาพร้อมๆ กับการสร้างเมือง ถือเป็นแลนด์มาร์คสำคัญของเมือง

พิพิธภัณฑ์ด้านสุคนธศาสตร์นานาชาติ (Musée International de la Parfumerie)

จัดแสดงประวัติความเป็นมาของเมืองและความเป็นมาของการผลิตน้ำหอม ขั้นตอนการผลิตน้ำหอม รวมไปถึงสวนดอกไม้พันธุ์ต่างๆ ที่เป็นส่วนผสมหลักของน้ำหอมประจำเมือง และน้ำหอมชื่อดังที่ผลิตจากโรงงานในเมืองแห่งนี้ ชาแนล หมายเลข 5 (Chanel No.5)

หุบเขาสกลอสส์เบิร์ก (Schlossberg)

หุบเขาอันเป็นแหล่งเพาะพันธุ์พืชและดอกไม้นานาพันธุ์ที่นำมาใช้ในการผลิตน้ำหอม มีวิวทิวทัศน์สวยงาม

อาหารฝรั่งเศส ที่เมื่อได้ไปเที่ยวฝรั่งเศสต้องรับประทาน



อาหารฝรั่งเศส ที่ได้พอเมื่อไปเที่ยวฝรั่งเศสต้องรับประทาน

1. Quiche 
คีช เป็นอาหารจานอบชนิดหนึ่งโดยมีส่วนประกอบหลักคือ ไข่ นม หรือ ครีม ถึงแม้ว่าคีชจะมีลักษณะคล้ายพายแต่คีชถูกจัดเป็นอาหารคาว โดยในคีชอาจมีส่วนประกอบอื่นเช่น เนื้อสัตว์ ผัก เนยแข็ง ได้ ถึงแม้ว่าคีชจะมีส่วนประกอบหลายอย่างคล้ายอาหารประเภทพาสตา แต่ไม่ถูกจัดว่าเป็นส่วนหนึ่งของพาสตา


2. Ratatouille 
ราทาทุย หรือ แรททาทูอี เป็นอาหารพื้นเมืองของฝรั่งเศส โดยมีลักษณะเป็นสตูว์ผัก มีต้นกำเนิดมาจากเมือง Nice ทานตอนใต้ของฝรั่งเศส อาหารชนิดนี้มีชื่อเต็มว่า ratatouille ni?oise คำว่า ratatouille มาจากภาษาอ็อกซิตันว่า "ratatolha" ราทาทุยปัจจุบันพบเห็นได้ที่ Occitan Proven?a และ Ni?a โดยมักจะทำในหน้าร้อนโดยใช้ผักในฤดูร้อน Ratatolha de Ni?a สูตรดั้งเดิมนั้นจะใช้เพียงแค่ ซุชีนี่, มะเขือเทศ, พริกหยวกแดงและเขียว, หัวหอม, และกระเทียม ราทาทุยในปัจจุบันจะมีการใส่มะเขือลงไปในส่วนผสมด้วย ปกติราทาทุยจะเสิร์ฟเป็นอาหารข้างเคียงกับอาหารหลัก หรือบางครั้งก็เสิร์ฟเป็นอาหารหลักบนโต๊ะอาหาร


3. soufflé 
ซูเฟล เป็นเค้กชนิดหนึ่ง เนื้อเบา ฟูนุ่ม ใช้เสิร์ฟเป็นของหวานหรืออาหารว่าง ซูเฟลมีหลายแบบเช่น ซูเฟลซอสปู ซูเฟลช็อกโกแลต


4. French Wine 
ไวน์ของประเทศฝรั่งเศสนั้น เป็นที่นิยมมาก ซึ่งได้มีการจัดให้เป็นไวน์ที่มีรสชาติดีที่สุดในโลกเลยทีเดียว ในฝรั่งเศสมีแหล่งผลิตไวน์อยู่ทั่วประเทศ ซึ่งมีการผลิตไวน์มากเป็นอันดับที่สองของโลกรองจาก ประเทศ สเปน เท่านั้น 
ไวน์ที่ดีนั้นขึ้นอยู่กับรสนิยมของผู้ดื่มเอง ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามแต่ละคน แต่โดยการแนะนำของผู้คนจำนวนมากแล้ว ไวน์จาก 
ประเทศฝรั่งเศสเป็นถิ่นกำเนิดไวน์ชั้น เยี่ยม อาทิ แชมเปญ บอร์โดซ์ เบอร์กันดี และไม่มีประทศใดในโลกที่สามารถผลิตไวน์ได้หลากหลายชนิดเท่าฝรั่งเศส ไวน์เป็นสัญญลักษณ์เฉพาะของงานเลี้ยง วิธีการและขั้นตอนในการดื่มไวน์จะเป็นตัวช่วยเพิ่มคุณค่าและรสชาติที่ดีของไวน์ได้ การชิม ไวน์ ของ ฝรั่งเศสนั้น เนื่องจากเขตพื้นที่ที่มีการปลูกองุ่นในประเทศฝรั่งเศสครอบคลุมพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล จากเหนือจรดใต้ จากตะวันออกจรดตะวันตก ระยะห่างนี้ก่อให้เกิดความแตกต่างระหว่างเขตพื้นที่ ซึ่งมีผลต่อลักษณะของดินที่ใช้ปลูกองุ่น ทิศทางที่หันเข้าหาดวงอาทิตย์และภูมิอากาศ และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดไวน์ที่ได้จากเขตเพาะปลูกองุ่น จึงมีลักษณะเฉพาะตัวที่ต่างกันออกไป ประเทศฝรั่งเศสให้ผลผลิตไวน์ นานาชนิดแก่นักชิมไวน์ทั้งหลาย คือมีไวน์ appellations กว่า 400 ชนิด และแว็งเดอเปยี อีกมากมายหลายชนิดด้วยกัน ซึ่งมีสีสัน รสชาด และลักษณะเฉพาะตัวให้เลือกตามรสนิยม และความพอใจอย่างเหลือเฟือ